ป.ป.ช. สุราษฎร์ธานี ลงพื้นที่ตรวจสอบ โครงการก่อสร้างหอนาฬิกาเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี หวั่นใช้งบก่อสร้างแพงเกินจริง

Published by

on

นางสาวอภิสร์ญา พัดเกร็ด ผู้อำนวยการ สำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี มอบหมายเจ้าหน้าที่กลุ่มงานปราบปรามการทุจริต และกลุ่มงานป้องกันการทุจริต ของสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมกับ สำนักงาน ป.ป.ช. ภาค 8 สำนักงาน ป.ป.ท. เขต 8 และเครือข่าย ภาคประชาชนจากชมรม STRONG – จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดสุราษฎร์ธานี ร่วมกันลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการก่อสร้างหอนาฬิกา ของเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี หลังจากที่ได้รับแจ้งข้อมูลจาก ศูนย์ป้องปรามการทุจริตแห่งชาติ (CDC) กรณีได้มีการเผยแพร่ข้อมูลผ่านทางสื่อสังคมออนไลน์ เพจเฟสบุ๊ค “ชมรมSTRONG ต้านทุจริตประเทศไทย” โพสต์ข้อความระบุว่า “หอนาฬิกาเมืองสุราษฎร์ธานี 6.7 ล้าน ส่อแพงเกินจริง”                                                                      

จากการลงพื้นที่ก่อสร้างหอนาฬิกา บริเวณสะพานนริศ อำเภอเมือง จังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมีเจ้าหน้าที่จากสำนักงานเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี คือ นายเอกสิทธิ์ สังหอ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมการก่อสร้าง พร้อมด้วย นายนำศักดิ์  ไทยถาวร สถาปนิกชำนาญการพิเศษ ให้ข้อมูลรายละเอียดโครงการว่า แนวความคิดการออกแบบหอนาฬิกามาจากศิลปะศรีวิชัยผสมผสานกับเอกลักษณ์ท้องถิ่น ซึ่งเป็นการบอกเล่าเรื่องราวของจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยเป็นงานสถาปัตยกรรมที่ใช้เทคนิคการปั้นหล่อ                                                                                    

ขณะที่ตัวเรือนนาฬิกาก็เป็นชนิดเดินพร้อมกัน 4 หน้าปัด ด้วยระบบเชื่อมต่อเวลาตามมาตรฐานโลก GMT/UTC มีระบบควบคุมวงจรนาฬิกาและระบบควบคุมแสง สี เสียง ที่ง่ายต่อการจัดการและการดูแลรักษาในระยะยาว ขนาดของหอนาฬิกา มีความกว้างอยู่ที่ 3.5 เมตร ความยาว 3.5 เมตร และความสูง 9 เมตร เดิมกำหนดให้ก่อสร้างบริเวณวงเวียนสะพานนริศ ซึ่งเป็นที่ตั้งเดียวกับหอนาฬิกาเดิม แต่เนื่องจากพื้นที่บริเวณวงเวียนมีจำกัด ทำให้หากก่อสร้างหอนาฬิกาใหม่ที่บริเวณดังกล่าว อาจจะบดบังทัศนวิสัยในการขับรถ และเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ จึงได้พิจารณาให้ย้ายไปหาจุดก่อสร้างที่มีความเหมาะสมมากกว่า โดยไม่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ                             

สำหรับการจัดซื้อจัดจ้าง ใช้วิธีผ่านการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) ได้รับเงินงบประมาณที่ได้รับการจัดสรรถึง 6,800,000 บาท โดยคณะกรรมการกำหนดราคากลางไว้ที่ 6,785,172.78 บาท ยึดหลักเกณฑ์การคำนวณราคากลางประเภทงานอาคาร โดยใช้หลักเกณฑ์และวิธีการจัดทำราคากลางงานก่อสร้างของทางราชการ เป็นราคาที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัดและบัญชีราคาค่าแรง ค่าดำเนินการของกรมบัญชีกลางเป็นหลัก แต่มีบางรายการที่สำนักงานพาณิชย์ฯ ไม่ได้กำหนดราคาไว้ จึงได้สอบราคาจากร้านค้าที่ขายในท้องที่และจากแหล่งผลิตภายในประเทศ           เจ้าหน้าที่กลุ่มงานปราบปรามการทุจริตและกลุ่มงานป้องกันการทุจริต ของสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี จึงได้เสนอแนะให้หน่วยงานเพิ่มการประชาสัมพันธ์รายละเอียดต่าง ๆ ของการดำเนินการตามโครงการ รวมถึงรายละเอียดงานด้านสถาปัตยกรรมให้ประชาชนได้รับทราบ และขอรับเอกสารการออกแบบก่อสร้างและการจัดทำราคากลางโครงการดังกล่าวไปตรวจสอบ เพื่อพิจารณาดำเนินการให้เกิดความถูกต้อง โปร่งใส และชัดเจน ตามอำนาจหน้าที่ต่อไป

Leave a comment

Blog at WordPress.com.

Design a site like this with WordPress.com
Get started